Engineered Wood
ไม้พื้นเอ็นจิเนียร์ และ พื้นไม้สำเร็จรูป
หลายคนยังคงหลงรักเสน่ห์ของการปูพื้นด้วยพื้นไม้จริง แต่อาจมีข้อจำกัดในเรื่องของการใช้งาน การติดตั้ง ระยะเวลา พื้นที่ หรือแม้กระทั่ง การควบคุมงบประมาณ จึงมองหาวัสดุที่มีความคล้ายคลึงกับไม้แปรรูปจากไม้จริง ทำให้เกิดการคิดค้นวัสดุทดแทนขึ้นอย่างแพร่หลาย และ ไม้พื้นเอ็นจิเนียร์ หรือ พื้นไม้สำเร็จรูป ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกสำคัญ
นอกจากนั้นแล้ว คุณสมบัติเด่นอีกอย่าง ของไม้พื้นเอ็นจิเนียร์ ก็คือ การคิดค้นเพิ่มความแข็งแรง ทนทานให้ตัวแผ่นไม้ คงตัว อัตราการยืดหดน้อย โดยผ่านกระบวนการและเทคโนโลยีมาช่วยยืดอายุการใช้งาน และในการป้อนกันแผ่นไม้จากปลวก อีกด้วย
ด้วยการใช้ไม้จริงเป็นส่วนประกอบบนสุดของแผ่น พื้นไม้สำเร็จรูป เพราะฉะนั้น เมื่อติดตั้งหรือปูพื้นแล้ว สีสัน ลวดลาย จะเหมือนปูด้วยพื้นไม้จริงมากที่สุด โดยชนิดไม้ที่นิยม คือ ไม้โอ๊ค white oak ที่มีทั้งสีธรรมชาติจริง และแบบ ย้อมสีให้มีโทน เฉดหลากหลาย ตามที่ต้องการ แต่ก็ยังมีการนำไม้ยอดนิยมอย่าง ไม้สักพม่า และไม้วอลนัท มาเป็นทางเลือกที่หลากหลายขึ้น
วัสดุปูพื้น ไม้พื้นเอ็นจิเนียร์ หรือพื้นไม้สำเร็จรูป ทดแทนพื้นไม้จริง ได้หรือไม่?
Type of Wood
ไม้ไวท์โอ๊ค
ไม้อเมริกันวอลนัท
ไม้สัก
Specification :
ไม้พื้นเอ็นจิเนียร์ หรือพื้นไม้สำเร็จรูป
สามารถนำไปใช้ได้ทั้งแบบ ไม้พื้น ไม้ผนัง และไม้ฝ้าเพดาน
[ไม้สักทอง / ไม้โอ๊ค (White Oak) / ไม้วอลนัท (American Walnut)
FLOORING พื้นไม้สำเร็จรูป
ความกว้าง. 95 / 125 / 150 / 190 มม.
ความยาว 910 / 1210 มม.
ความหนา 14/3 มม.
PANELLING/ CEILING ไม้ผนัง/ไม้ฝ้าเพดานสำเร็จรูป
ความกว้าง. 95 / 125 / 150 / 190 มม.
ความยาว 910 / 1210 มม.
ความหนา 12/0.6 มม.
ไม้พื้นสำเร็จรูป ผิวหน้าไม้จริง ไม้ไวท์โอ๊ค ไม้สักพม่า ไม้วอลนัท
ไม้พื้นสำเร็จรูป ผิวหน้าไม้จริง ไม้ไวท์โอ๊ค ไม้สัก ไม้วอลนัท
ไม้พื้นสำเร็จรูป ผิวหน้าไม้จริง ไม้วอลนัท
Pattern [รูปแบบการปูพื้นไม้รางลิ้น]
ใช้ได้ทั้งพื้นไม้จริง และไม้พื้นเอ็นจิเนียร์
Flooring pattern : PLANK
Flooring pattern : FISHBONE
Flooring pattern : HERRINGBONE [90 Degree]
Flooring pattern : WINDMILL
Coating
UV / OSMO
ระบบการเคลือบผิว
ด้วย ไม้พื้นเอ็นจิเนียร์ หรือพื้นไม้สำเร็จรูป ที่นิยมนำมาใช้ในงานปูพื้น [Flooring] และ ทำผนัง [Wall-type] นั้น มีส่วนประกอบที่พื้นผิวบนสุดเป็นพื้นไม้จริง ดังนั้น ความพิถีพิถัน ดูแลรักษาผิวสัมผัส และการปกป้อง จึงไม่แตกต่างไปจากการใช้แผ่นไม้จริง ลัมเบอเรอร์ จึงเลือกวิธีที่จะช่วยปกป้องคุณลักษณะของเนื้อไม้ด้วยการทำผิวอยู่ 2 แบบ คือ UV และ OSMOโดยจะแตกต่างกันไปการเลือกตามการใช้งาน และผิวสัมผัสที่ต้องการ
ไม้พื้นเอ็นจิเนียร์เคลือบผิวแบบ UV
Long-Term Protection การปกป้องผิว
Low-Maintenance Surface
Completely coated
Prolong the durability
Premium innovative technology
Hardy protective surface
กระบวนการทำผิวไม้ด้วย ระบบ UV เป็นการเคลือบผิวและดูแลรักษาเนื้อไม้ให้มีอายุการใช้งานให้ยาวนานขึ้น เพราะ ผิวที่ผ่านการเคลือบยูวี จะช่วยเสริมความคงทน แข็งแรง ป้องกันน้ำและของเหลวบนหน้าพื้นไม้จริง และช่วยปกป้องพื้ผิวของไม้จริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ไม้พื้นเอ็นจิเนียร์เคลือบผิวแบบ OSMO
Natural Grain showing Easily Refurnished / Maintenance (Spot-Fixed) Low-Maintenance Expense
Coating not Flake and Peel
Protective Surface
Environmental friendly
กระบวนการทำผิวไม้ด้วย ระบบ OSMO หรือ hard wax oil คุณภาพสูงตามมาตรฐานระดับสากล (EU) เป็นการเคลือบและดูแลรักษาผิวไม้ ที่ให้สัมผัสความเป็นธรรมชาติ แต่ยังคงปกป้อง พื้นผิวได้อย่างแข็งแรง และยังป้องกันน้ำและของเหลวบนหน้าไม้ได้เป็นอย่างดี ในกรณีที่เกิดรอยบนผิวไม้ ก็สามารถเลือกซ่อมเฉพาะจุดได้ จึงช่วยการประหยัดทั้งเวลา และต้นทุน สำหรับการดูแลรักษาพื้นไม้